Posted on

[Tips] วิธีย้ายจาก Android ไป iPhone

move-android-to-ios

บทความสำหรับผู้ที่ต้องการที่อยากจะย้ายจาก Android มาใช้ iPhone นั้นต้องทำอย่างไรบ้าง

 

ห้วข้อที่แนะนำมีดังนี้

move android to ios

1. อีเมล, รายชื่อและปฎิทิน

ส่วนใหญ่ผู้ใช้งาน Android จะใช้ Gmail อยู่แล้วดังนั้นไม่เป็นปัญหาเรื่องอีเมลเพราะ iOS รองรับอีเมลที่ค่อนข้างหลากหลาย เช่น Gmail, Yahoo, AOL, Exchange และอื่นๆ อีกมาก นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ของอีเมลเหล่านั้นมาติดตั้งแยกเพิ่มก็ได้

เรื่องของรายชื่อและปฎิทินนั้นสามารถใช้แอป Copy my Data จาก Android จากนั้นนำมาถ่ายลงที่ iOS เท่านี้พวกรายชื่อและปฎิทิน รูปก็จะมาละ

2. รูปและวีดีโอ

รูปและวีดีโอที่ถ่ายใน Android สามารถนำมาลงที่ iPhone ได้อย่างง่ายดาย ทั้งผ่าน iTunes หรือว่าแอปพลิเคชันเสริมอย่าง

  • Copy My Data สำหรับ iOS หรือ Android
  • PhotoSync สำหรับ iOS หรือ Android
  • AT&T Mobile Transfer สำหรับ iOS หรือ Android

นอกจากนี้สามารถก๊อบรูปเหล่านั้นลง PC แล้วใช้แอป Image Transfer ส่งรูปเหล่านั้นเข้า iPhone Camera Roll  ได้

3. เพลง

หากดาวน์โหลดเพลงใน Android แล้วสามารถที่จะซิงก์เพลงเหล่านั้นลงที่ iPhone ผ่านทาง iTunes ได้ นอกจากนี้ยังสามารถฟังเพลงได้จากแอปอย่าง Beats Music, Pandora ฯลฯ  และหากต้องการซื้อเพลงเพิ่มก็เข้าไปที่ iTunes Store เพื่อซื้อเพลงเพิ่มหรือจะฟังฟรีผ่าน iTunes Radio ก็ยังได้เช่นกัน

4. อีบุ๊คและไฟล์ PDF

iBook ของ Apple รองรับไฟล์ ePUB และไฟล์ PDF ต่างๆ ได้ หากผู้ใช้ Android ดาวน์โหลดไฟล์ PDF มาจากไหนก็สามารถที่จะซิงก์ผ่าน iTunes, ส่งเข้าอีเมลได้แล้ว

ส่วนหากใครที่ดาวน์โหลดหรือว่าซื้อหนังสืออีบุ๊คบน Kindle, Nook หรือ Google Play Books ก็สามารถดาวน์โหลดแอปเหล่านั้นติดตั้งลง iPhone แล้วก็ล็อคอินด้วยบัญชีเดิมเท่านี้ก็สามารถดูหนังสืออีบุ๊คเหล่านั้นได้แล้ว

5. เอกสาร

ใน iOS มีแอป Numbers (เทียบเคียงกับ Excel), Pages (เทียบเคียงกับ Word) และ Keynote (เทียบเคียงกับ Power Point) พร้อมทั้งแอปเสริมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการจัดการเอกสาร อาทิเช่น Office Suite หรือแม้แต่ Microsoft Office ก็ยังมีให้

ผู้ใช้ Android สามาถรถที่จะโอน ย้าย คัดลอกไฟล์เอกสารเหล่านั้นมาแก้ไขในเครื่องและเก็บไว้ที่ iCloud ได้ โดย iCloud Drive นั้นสามารถที่จะใช้ได้บนคอมพิวเตอร์ทั้ง Windows, OS X อีกด้วย และอีกทางก็ยังสามารถลิงก์ไฟล์ Dropbox ที่เก็บเอกสารของเดิมได้ และไม่ต้องกังวลหากคุณใช้ Google Drive สามารถที่จะดาวน์โหลดแอปของ Google Drive เพิ่มได้เช่นกัน

6. แอปพลิเคชัน

แอปพลิเคชันที่มีมากกว่า 1.3 ล้านแอปใน App Store ที่เป็นแอปที่มีคุณภาพสูงครอบคลุมทุกการทำงาน หากผู้ใช้ Android  หากเคยใช้แอปไหนใน Google Play แล้วก็ไม่ยากเลยเพียงเข้าไปที่ App Store แล้วค้นหาแอปเหล่านั้นแค่นี้ก็ใช้งานแอปเหล่านั้นต่อได้อย่างไม่ขาดช่วงแล้ว

ในบทความนี้ทาง Apple แจ้งเอาไว้ว่าหากติดปัญหาหรือว่าสงสัยและต้องการความช่วยเหลือแล้วนั้น ผู้ใช้สามารถติดต่อไปยัง Apple Support ได้ โดยประเทศไทยสามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 001800 4412904 ได้วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 9.00-18.00 น.

ขอบคุณบทความดีๆจาก www.iphonemod.net

 

[php function=1]

Posted on

เปรียบเทียบ iOS8 vs iOS7 iPhone iPad iPod

เปิดให้ดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ iOS 8 ทั้งบน iPhone (iPhone 4S ขึ้นไป), iPod touch (5th gen), iPad (iPad 2 ขึ้นไป), iPad Air และ iPad mini ซึ่งโดยรวมแล้ว อินเทอร์เฟสเหมือนกับ iOS 7 นั่นเอง แต่ฟังก์ชันการใช้งานบางอย่างเปลี่ยนไป มาดูกันครับว่า มีอะไรกันบ้าง

iOS 8 vs iOS 7

Spotlight Search เพิ่มข้อมูลจากทั้ง App Store, แนะนำเว็บไซต์ รวมไปถึงรายละเอียดจาก Wikipedia เพิ่มเข้ามา (พร้อมรูปภาพประกอบ)

สำหรับข้อความที่ปรากฏในหน้า Lock screen สามารถตอบได้เลยจากหน้านี้ ไม่จำเป็นต้องปลดล็อคก่อน

ข้อความ Pop-up แจ้งเตือนด้านบน สามารถตอบได้เลยเช่นกัน

สำหรับผู้ใช้ iMessage สามารถส่งข้อความเสียง หรือ Video text message ได้แล้ว จะส่งแบบรายเดี่ยวหรือรายกลุ่มก็ได้

iOS 8 รองรับ Third-party keyboard แล้ว

iMessage สามารถแชร์พิกัดได้แล้ว โดยเลือกเป็นช่วงเวลา หรือ ณ เวลานั้นได้

หน้า Multitasking ได้เพิ่มแถบ Favourite เข้ามาครับ โดยจะเป็นรายชื่อผู้ติดต่อ ที่เราติดต่อบ่อย

การแจ้งเตือนบน iOS 8 จะปรากฏด้านบน สามารถเลือกต่อได้ 2 แบบคือ ปิดแจ้งเตือนไปเลย หรือว่า ให้แจ้งเตือนต่อ

Siri สามารถเชื่อมต่อกับ Shazam ได้แล้ว

ในส่วนของ Notification Panel ได้เพิ่มไอคอนเข้ามาครับ อย่างเช่น ไอคอนสภาพอากาศ (ที่แอปเปิลเรียกส่วนนี้ว่า เป็น Widget) นอกจากนี้ ยังรองรับ Widget จากผู้พัฒนารายอื่นอีกด้วย

Spotlight Search บน Safari สามารถพิมพ์คำที่ต้องการค้นหาบน URL ได้เลย จากนั้นจะมีรายชื่อเว็บไซต์แนะนำปรากฏขึ้นมา

Safari เพิ่มมุมมองแบบ Desktop เข้ามา

ไอคอนบน Sharing Menu เปลี่ยนอินเทอร์เฟสใหม่ เข้ากับ iOS 8 มากขึ้น

อีเมล ได้เพิ่มลูกเล่น 2 อย่างครับ ถ้าปัดมาซ้าย จะมีเมนู More, Flag, Trag ถ้าปัดไปขวา จะเป็นเมนู Mark as Read

มากันที่แอปฯ กล้องกันบ้าง ได้เพิ่มการถ่ายรูปแบบตั้งเวลาเข้ามา พร้อมกับการควบคุมการวัดแสงในตัว

นอกจากนี้ ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Time-Lapse mode ครับ

หน้า Photo editing เพิ่มเมนูใหม่เข้ามา เช่น ปรับแสง, ปรับสีสัน, ปรับความสว่าง

Family Sharing สามารถแอด บุคคลในครอบครัวได้สูงสุด 6 คนด้วยกัน ข้อดีก็คือ ทุกๆ ครั้งที่มีการซื้อแอพฯ บน App Store จะมีการแจ้งเตือนไปยัง ผู้ปกครอง ก่อน ทำให้หมดปัญหาเรื่อง บุตรหลานเผลอไปกดซื้อแอพฯ ได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ ยังสามารถแชร์รูป, ตารางนัดหมายต่างๆ รวมไปถึง แชร์ Location ได้อีกด้วย

Health แอปพลิเคชันด้านสุขภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายบ่อย หรือต้องการควบคุมน้ำหนัก

Battery statistics เพิ่มรายละเอียดมากขึ้น โดยระบุว่า แต่ละแอปพลิเคชัน ใช้แบตเตอรี่ไปมากน้อยแค่ไหน

QuickType prediction รองรับภาษาไทยแล้วครับ

สำหรับการอัพเดท iOS 8 สามารถอัพเดทกันได้ผ่านทาง OTA หรือเชื่อมต่อกับ iTunes เพื่อทำการอัพเดทนะครับ

ขอบคุณบทความดีๆจาก www.techmoblog.com

 

[php function=1]